สีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาป เลี่ยมพลาสติกกันน้ำ
สีผึ้งเขียว หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง เป็นสีผึ้งมหาเสน่ห์โบราณบรรจุมวลสารสุดยอดตำรับสีผึ้ง
สีผึ้งหลวงพ่อทาบ สร้างขึ้นตามตำราของครูภู่ ชาวอุบล แรก ๆ ก็เป็นสีผึ้งธรรมดาไม่มีสีเขียว แต่เมื่อหลวงพ่อทาบมีชื่อเสียงทางด้านสีผึ้งมากขึ้น ท่านจึงได้นำใบของว่านชนิดหนึ่งผสมลงไปด้วย สีผึ้งจึงกลายเป็นสีเขียว ภายหลังเรียกกันว่า “สีผึ้งเขียว” คุณลุงเจริญเล่าว่าสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบนั้น ท่านทำเสร็จแล้วจะใส่ไว้ในโถโบราณซึ่งมีฝาครอบ ปรากฎว่าสีผึ้งเขียวของหลวงพ่อทาบนั้นจะงอกหรือเพิ่มปริมาณได้ตามความแรงของกำลัง บางครั้งสีผึ้งจะฟูขึ้นจนติดฝาครอบโถเกาะกันเป็นวงคล้าย ๆ กับดอกของใบพลู ซึ่งเป็นรูปคล้ายดอกใบพลูนี้แหละขลังนัก ศิษย์วัดกระบกขึ้นผึ้งเมื่อเปิดฝาโถเห็นเข้าก็จะเอาใบจากซึ่งใช้สำหรับมวนบุหรี่สูบมาม้วนเป็นกรวยตักไป ใช้ได้ผลชะงัดนัก รายไหนรายนั้น มักหอบผ้าหอบผ่อนหนีตามคนป้ายไปและไม่เคยมีพลาดเลยสักรายเดียว เมื่อถามว่าต้องใช้ป้ายกี่ครั้งจึงจะสำเร็จ คุณลุงเจริญบอกว่าโดยมากมักสำเร็จในครั้งเดียว แต่ถ้าผู้หญิงบางคนดวงแข็งมีของดีคุ้มหรืออำนาจดวงคุ้มครอง ก็ต้องใช้หลายหนหน่อยแต่สำเร็จทุกราย สีผึ้งของหลวงพ่อทาบนั้นมีเคล็ดวิธีการใช้ดุจเดียวกับหลวงปู่ทิม ใช้ตามคำสั่งความสำคัญของนิ้วมือทั้ง 5 นิ้ว นับแต่หัวแม่โป้งเรื่อยมาจนถึงนิ้วก้อยซึ่งเล็กที่สุด และวิธีจะใช้ป้ายผู้หญิงซึ่งหมายปองก็อย่าป้ายให้ต่ำกว่าบั้นเอวลงไป เวลาป้ายก็ให้ป้ายให้ถูกต้องเนื้อ อย่าให้ถูกผ้าเพราะจะได้ผลช้า
สีผึ้งนั้นคนสมัยก่อนมักจะใส่ตลับเล็ก ๆ พร้อมกับพระเครื่องด้านเมตตาและตะกรุดจิ๋ว จะว่าไปแล้วสำหรับเหตุที่จะทำให้หลวงพ่อทาบมีชื่อเสียงโด่งดังจนเป็นเอกในด้านเมตตามหานิยมและเป็นที่รู้จักของผู้คนทั่วไปก็มาจากสีผึ้งเขียว เมื่อหลวงพ่อทาบมีอายุล่วงเข้า 80 พรรษาเศษแล้ว ท่านใช้เวลารวบรวมมงคลวัตถุต่าง ๆ เป็นเวลานานถึง 4 ปีเศษ หลังจากนั้นท่านก็เริ่มเป็นที่รู้จักของผู้คนในแถบละแวกวัดกระบกขึ้นผึ้งและคนในถิ่นใกล้เคียง จนเป็นที่เคารพนับถือของผู้คนในย่านนั้น เมื่อเจ้าอาวาสวัดกระบกขึ้นผึ้งมรณภาพลง ชาวบ้านจึงได้นิมนต์ท่านขึ้นเป็นเจ้าอาวาสปกครองวัดกระบกขึ้นผึ้ง ท่านไม่สามารถขัดศรัทธาของชาวบ้านได้จึงจำใจต้องรับตำแหน่ง
การพัฒนาวัดกระบกขึ้นผึ้งในสมัยท่านเป็นไปได้ด้วยดี เพราะได้รับแรงศรัทธาจากประชาชน จนหลวงพ่อทาบสามารถสร้างกุฏิ วิหารโบสถ์ ได้อย่างรวดเร็วในยุคของท่าน นอกจากงานพัฒนาทางวัดแล้ว หลวงพ่อทาบยังได้สงเคราะห์ญาติโยมที่เดือดร้อนทางใจและตกทุกข์ได้ยาก โดยการทำน้ำมนต์อาบขจัดทุกข์ขจัดโศก จนบุคคลเหล่านั้นประสบความสำเร็จ ทำให้ชื่อเสียงเกียรติคุณของหลวงพ่อทาบเลื่องลือระบือออกไปตามท้องถิ่นต่าง ๆ จนจัดเป็นเกจิอาจารย์ที่มีเกียรติคุณอย่างยิ่งรูปหนึ่งในบ้านค่าย
วิธีใช้
- แค่พกติดตัวเท่านั้น อีกทั้งยังใช้ในการบนบานขอในเรื่องต่าง ๆ ได้
คาถา
ไม่มีคาถา ตั้งจิตอธิษฐานขอและใช้งานได้เลย
ข้อห้าม
ไม่มีข้อห้ามในการใช้งาน